พระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี ปี 38 ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว ทาทอง

พระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี ปี 38 ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว

*** องค์นี้ทาทอง ผิวหิ้งๆ ***


เทหล่อด้วยเนื้อโลหะผสมรมดำ สภาพสวยสมบูรณ์ ผิวหิ้งเดิมๆ

ปรกติพระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ แห่งจังหวัดปัตตานี ที่เป็นเนื้อโลหะนั้นจัดสร้างเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2502 เป็นต้นมาจนถึงในปี 2511 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่อาจารย์ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ยังคงดำรงขันธ์สังขาร (มีชีวิต) อยู่

ซึ่งพระบูชาดังที่กล่าวไว้ข้างต้น นั้นล้วนแล้วแต่มีมูลค่าในการสะสมสูงลิ่ว บางรุ่น บางปี มีมูลค่าแตะหลักล้าน อีกทั้งมีการปลอมแปลงมากมายหลากหลายฝีมือ

ภายหลังจากอาจารย์ทิมมรณภาพไปแล้ว ศรัทธาความนิยมที่มีพื้นฐานความมั่นคงในองค์หลวงพ่อทวดแห่งวัดช้างให้ ก็มิได้จืดจางลงไปแต่ประการใด แต่กลับพุ่งเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ยังผลให้พระเครื่อง พระบูชา ในรูปลักษณ์ของหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด หรือ เทพเจ้าแห่งแดนทักษิณ หรือ พระนิรันตรายแห่งเมืองใต้ สุดแท้แต่คนจะเรียก นั้นยังคงได้รับความนิยม และมีมูลค่าในการเช่าบูชาสูงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นที่มาของพระบูชาและพระเครื่องในนามหลวงพ่อทวดที่จัดสร้างตั้งแต่ปี 2512 จนถึงปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่ได้รับการปลุกเสกในโบสถ์ที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดช้างให้ ซึ่งล้วนมีพิธีกรรมอย่างถูกต้องตามตำรับแบบแผนประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างเนิ่นนาน

พระบูชาหลวงพ่อทวดนั้นนิยมจัดสร้างในขนาดหน้าตักที่แตกต่างกัน 3 ขนาดหลัก

อันได้แก่ขนาดหน้าตัก 4 , 6 และ 9 นิ้ว ตามลำดับ

☆☆☆ โดยพระบูชาขนาดหน้าตัก 4 และ 6 นิ้ว มีการจัดสร้างมาตั้งแต่ยุคแรกก่อนอาจารย์ทิมมรณภาพ และมีการสร้างต่อมาจนถึงประมาณปี 2540 ส่วนพระบูชาขนาดหน้าตัก 9 นิ้วส่วนใหญ่จะมาจัดสร้างหลังจากปี 2540

รูปลักษณ์ในองค์พระ โดยเฉพาะเค้าหน้าหลวงพ่อทวดตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน นั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันเฉพาะในรายละเอียด

ส่วนใต้ฐานพระที่สร้างขึ้นหลังอาจารย์ทิมมรณภาพไปแล้ว นั้นนิยมบรรจุเหรียญทองแดงที่จารึกอักขระยันต์ "นะโมโพธิสัตโตฯ" ในรูปทรงกลม ผนึกแน่นไว้กับปูนพลาสเตอร์ ซึ่งเหรียญจะถูกกดจมลึกลงไปในเนื้อปูน อีกทั้งเฉดสี และความหนาแน่นในการเกาะตัว ตลอดจนความแห้งของอนุภาคปูนพลาสเตอร์ต้องแปรผันไปตามกาลเวลาที่จัดสร้างพระในรุ่นนั้นๆ (เป็นอีกจุดหนึ่งในการพิจารณาพระแท้ให้แยกออกจากพระที่สร้างเสริม หรือพระเก๊ได้เป็นอย่างดี)

และอีกจุดสังเกตหนึ่งในการพิจารณา "พระบูชาหลวงพ่อทวดยุคที่สร้างในหลังๆ" ก็คือ ถ้าเหรียญที่บรรจุอยู่ใต้ฐานองค์พระมีการตอกอักษร "ท" ไว้กลางเหรียญโดยล้อมรอบด้วยเส้นรัศมีที่เป็นขีดเล็กๆ "นั้นมักจัดสร้างหลังจากปี 39" (ตัว ท น่าจะเป็นตัวย่อมาจากคำว่า ทวด)

°° ซึ่งผิดจากพระบูชาหลวงพ่อทวดที่จัดสร้างก่อนหน้านี้ ที่ตรงกลางไม่มีการตอกอักษร "ท" ล้อมด้วยขีดรัศมี แต่อย่างใด °°

ความแห้งเก่าคร่ำคร่าของผิวรมดำ รูปแบบลายมือของตัวอักษร และความคมชัดลึกซึ่งสลักไว้ด้านหน้าฐาน รวมถึงการตกแต่งเส้นสายรายละเอียดบนผิวพระด้วยเครื่องมือกล ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบเพื่อพิจารณาพระแท้ พระทันยุค หรือพระหลงยุคได้เป็นอย่างดี

องค์จากภาพข้างต้นเป็นพระบูชาที่จัดสร้างในปี 2538 ด้วยขนาดหน้าตักใหญ่ถึง 6 นิ้ว ที่มีความสวยสมบูรณ์เป็นองค์ประกอบหลัก อีกทั้งเป็นพระดูง่ายในแบบฉบับความเป็นพระแท้ ตรงยุค ตรงพ.ศ. ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความสวยสมบูรณ์เลย

ซึ่งจะขอบอกว่าพระบูชาขนาดหน้าตัก 4 นิ้วที่จัดสร้างในห้วงปี 2530 จนถึง 2545 นั้นเป็นพระที่พบเห็นกันได้ไม่ยาก ในทางตรงกันข้ามถ้าเป็นพระบูชาแท้ที่มีขนาดหน้าตัก 6 นิ้ว ที่จัดสร้างในห้วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นพระแท้ นั้นกลับค่อนข้างจะหาได้ลำบากยากเย็นพอสมควร

จะยังไงก็แล้วแต่พระบูชาและพระเครื่องในนามของหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ หรือพระโพธิสัตว์เมืองใต้ นั้นล้วนแล้วแต่มีพลานุภาพในการคุ้มครองป้องกันภยันอันตรายต่างๆ รวมถึงให้แคล้วคลาด ปลอดภัย ปราศจากอุปสรรคแก่ผู้สักการะบูชา

▪ศักดิ์สิทธิ์มากจนมีคำกล่าวไว้อย่างไม่น่าเชื่อว่า "ถึงแม้ว่าพระเก๊ ก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์"▪

...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราเลือกได้...หาของแท้ไว้บูชาไม่ดีกว่าหรือ?